วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

[ซีรีย์ดัง] CSI: New York Season 6: ไขคดีปริศนา นิวยอร์ค ปี 6



CSI: New York Season 6 / ไขคดีปริศนา นิวยอร์ค ปี 6 (7 แผ่นจบ)



Copyright/Studio : Paramount Pictures

Genres : Drama , Thriller , Series

Video Format : Widescreen 16 : 9

Audio : English 5.1 , Thai 5.1

Subtitle : English , Thai



ss:





รายละเอียดเรื่องย่อ :



            ซีเอสไอ: นิวยอร์ก (อังกฤษ: CSI: NY หรือชื่อเต็มว่า Crime Scene Investigation: New York) เป็นรายการซีรีส์ออกฉายทางโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการทำงานของ ตำรวจที่เป็นที่ นิยมในสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตโดยช่อง CBS ร่วมกับบริษัทกิจการบันเทิง Alliance Atlantis ,  ออกฉายในสหรัฐอเมริกา ที่มีเนื้อเรื่องคาบเกี่ยวมาจาก CSI: Crime Scene Investigation หรือ ซีเอสไอ ไครม์ซีนอินเวสติเกชั่น และ CSI: Miami หรือ ซีเอสไอ ไมอามี่ (ในประเทศไทย ซีรีส์ชุดนี้ถูกเรียกว่า ทีมปฏิบัติการล่าความจริง นิวยอร์ก ตามที่ออกฉายในช่อง AXN ของ True Visions และถูกเรียกว่า ไขคดีปริศนา นิวยอร์ก ตามที่ออกเป็นสื่อบันเทิงตามบ้าน ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัท เอสทีจี มัลติมีเดีย จำกัด) รายการนี้มีศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่ทีมนักนิติเวชวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ใน นิวยอร์ก



            หน่วยนี้จะสืบ สวนสอบสวนการเสียชีวิตที่เป็นปริศนา ผิดธรรมดา และบางครั้งก็น่าสยดสยอง เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงและความเป็นมาของผู้ที่เสียชีวิต พวกเขายังสอบสวนอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ ด้วย แต่แกนสำคัญส่วนใหญ่ของเรื่องมักจะเป็นการฆาตกรรม



ตัวละครหลัก



เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 แม็ค เทย์เลอร์ - CSI Detective First Grade: Mac Taylor (แสดงโดย Gary Sinise)

            หัวหน้าทีม CSI ของซีรีส์นี้ เขาเกิดในเมือง ชิคาโก แม้กระทั่งเขาตัดสินใจมาทำงานที่ กรมตำรวจชิคาโก ยึดมั่นในหลัก ทฤษฎีควอนตัม ในสาขาฟิสิกส์ ที่ว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน” และใช้มันในการไขปริศนาคดีที่สลับซับซ้อนเสมอมา การเสียชีวิตของภรรยา แคลร์ คอนราร์ด จากเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ได้เป็นปัญหา อาการนอนไม่หลับ ของเขาในเวลาต่อมา เขาเคยรับราชการตำแหน่งร้อยโท ในหน่วย นาวิกโยธิน ของ ราชนาวี สหรัฐอเมริกา เขาสนิทสนมกับสเตลล่า โบนาเซร่า และงานอดิเรกของเขา ก็คือ การเล่นกีต้าร์เบส ที่ คลับดนตรีแจส ทุกคืนวันพุธ ซึ่งความสามารถนี้ถูกค้นพบโดย ลินด์เซย์ มอนโร ในระหว่างการสืบสวน และเขาก็รู้วิธีการเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ รวมทั้งรู้ถึงวิธีการถือดาบซามูไรญี่ปุ่น และธนูอีกด้วย ในซีซั่นที่ 3 มีความสัมพันธ์อย่างเปิดเผยกับ ด็อกเตอร์ เพลย์ตัน ดริสคอล ซีซั่นที่ 4 เขาได้รับโทรศัพท์ลึกลับตอนเวลา 3.33 น. เป็นประจำ โดยค้นพบว่า โทรศัพท์ลึกลับนี้รู้แต่เพียงว่าเป็นมาจากบุคคลลึกลับเลข 333 ซึ่งภายหลังก็คือ ดิว เบนฟอร์ด และในขณะเดียวกัน ด็อกเตอร์ เพลย์ตัน ดริสคอล ตัดสินใจที่จะอยู่ ลอนดอน และไม่กลับมาที่ นิวยอร์ก อีก ตอน Down The Rabbit Hole อาการนอนไม่หลับของเขาเริ่มแย่ลง อันเนื่องมาจาก โทรศัพท์ลึกลับตอนเวลา 3.33 น. และเขาได้เล่าเรื่องให้กับ ดอน แฟล็ค เกี่ยวกับการที่ ด็อกเตอร์ เพลย์ตัน ดริสคอล ตัดสินใจที่จะอยู่ ลอนดอน ตอน Hostage เขาถูกจับเป็นตัวประกันในธนาคารโดย โจ อีธาน และ ตื่นขึ้นมาอย่างไม่ได้สติในรถใต้น้ำ ในซีซั่นที่ 5 ตอน Veritas



เจ้า หน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 โจเซฟฟิน “โจ” แดนวิลล์ - CSI Detective First Grade: Josephine “Jo” Danville (แสดงโดย Sela Ward)

            สมาชิก CSI คนใหม่ ที่มาแทน สเตลล่า โบนาเซร่า เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ที่ เวอร์จิเนีย มาก่อน เธอมีความเชี่ยวชาญในการหาหลักฐานทาง DNA มุมมองด้านปรัชญาของเธอจะมองทุกคนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เธอเองก็มีภูมืหลัง ทางด้านจิตวิทยาทางอาญาด้วย เธอมีบุตรบุญธรรมชาย 1 คน การมาถึงที่แล็บอาชญากรรม ทำให้เธอตกใจเมื่อพบศพอยู่บนพื้น ที่แล็บอาชญากรรม



เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 แดนนี่ เมสเซอร์ - CSI Detective First Grade: Danny Messer (แสดงโดย Carmine Giovinazzo)

            เขาเติบโตมาจากครอบครัวที่เต็มไปด้วยกรอบและระเบียบวินัยในการดำเนินชีวิต แต่ส่วนตัวเขากลับสร้างสไตล์การทำงานตลอดจนการดำเนินชีวิตให้เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว นั่นคือการผสมผสานแนวความคิดในโลกของพวกที่ไม่ยอมรับและชอบแหกกฎ กับโลกของผู้สร้างกฎและควบคุมมัน เขาเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับดนตรีในช่วงเวลาที่สั้น และเคยเป็นนักเบสบอลที่ยอดเยี่ยม เขาเล่นมาตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงวิทยาลัย แต่ข้อมือหักระหว่างปะทะคู่ต่อสู้ ทำให้ต้องเลิกเล่นไปในที่สุด หลังจากนั้นเขาไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนตำรวจ และสำเร็จการ ศึกษาเป็นอันดับ 1 ในชั้น เขาได้รับการคัดเลือกเป็นการส่วนตัวจาก แม็ค มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม CSI เขาสนิทสนมกับ ดอน แฟล็ค เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ นัก ในซีซั่นที่ 3 ตอน Snow Day เขาเริ่มมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมทีม ลินด์เซย์ มอนโร และถูกจับเป็นตัวประกัน พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม อดัม อยู่ในคลังสินค้า ในซีซั่นที่ 5 ตอน The Box แดนนี่ได้รู้ว่าลินด์เซย์กำลังตั้งครรภ์ และในตอน Green Piece แดนนี่ได้แต่งงานกับลินด์เซย์



เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 3 ลินด์เซย์ มอนโร - CSI Detective Third Grade: Lindsay Monroe (แสดงโดย Anna Belknap)

            เธอเคยทำงานอยู่ในทีม CSI เป็นเวลา 3 ปีที่ มอนทานา แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตามฝันย้ายมาอยู่ที่ นิวยอร์ก หญิงสาวผู้กระตือรือล้นและพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา ความกระหายที่จะไขความลับเป็นแรงกระตุ้นให้เธอพร้อมอุทิศชีวิตในการทำงานให้ กับทีม CSI เป็นเพราะว่าถิ่นที่เธอกำเนิด ทำให้ แดนนี่ เมสเซอร์ เรียกเธอด้วยความรัก ว่า มอนทาน่า หรือ สาวลูกทุ่ง อยู่เป็นประจำ ตลอดช่วงซีซั่นที่ 3 เธอพยายามอยู่ห่างจากแดนนี่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน เธอพยายามลืมความทรงจำที่ถูกกระตุ้น จากความลับในอดีตของเธอที่ผ่านมา (ความทรงจำนั้นก็คือ เพื่อนๆ ของเธอถูกฆาตกรรมทั้งหมด แต่เธอรอดชีวิตเพียงคนเดียว) แต่หลังจากตอน Sleight Out of Hand เธอจึงได้ใกล้ชิดกับแดนนี่มากขึ้น และตอน Snow Day พวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ในซีซั่นที่ 5 ตอน The Box เธอได้รับผลการตรวจที่โรงพยาบาลว่าเธอตั้งครรภ์ และในตอน Green Piece ลินด์เซย์ได้แต่งงานกับแดนนี่



เจ้าหน้าที่นิติวิทยา ด็อกเตอร์ ซิด แฮมเมอร์แบ็ค - Medicial Examiner: Doctor Sid Hammerback (แสดงโดย Robert Joy)

            เจ้าหน้าที่นิติวิทยา ที่ถูกนิยามคำจำกัดความว่า “Off-the-charts Genius” หรือ “ยอดอัจฉริยะระดับแนวหน้า” ก่อนหน้านี้เคยเป็น หัวหน้าพ่อครัว และมาเป็นเจ้าหน้าที่นิติวิทยา ในเวลาต่อมา เขาเป็นคนชอบพูดและแสดงความคิดเห็นมากเกินไปในบางครั้ง แต่เขาก็มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งและความห่วงใยที่จริงใจ ต่อเพื่อนร่วมทีมของเขา (เห็นได้จากการที่เขาเชิญ แม็ค ไปร่วมงาน เทศกาล วันขอบคุณพระ เจ้า กับครอบครัวของเขา เพราะไม่อยากให้ แม็ค ใช้ชีวิตในวันหยุดอยู่คนเดียว) ในซีซั่นที่ 3 ตอน The Ride In เขาเกือบจะเสียชีวิตจากอาการแพ้อย่างรุนแรง อันเนื่องมาจาก แซนด์วิชเนื้อที่เขากินเข้าไป แต่ สเตลล่า ช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา ปัจจุบันเขาแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 2 คน ซึ่งคนหนึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัย และซีซั่นที่ 5 ตอน Page Turner เขาเกือบจะเสียชีวิต อันเนื่องมาจาก พิษกัมมันตภาพรังสีของผู้เคราะห์ร้าย ในห้องเก็บศพ



เจ้าหน้าที่เทคนิค ห้องทดลอง อดัม รอส - Laboratory Technician: Adam Ross (แสดงโดย A.J. Buckley)

            เจ้าหน้าที่แล็บเทคนิค จาก ฟินิกซ์ ,  แอริโซนา เขามีความชำนาญด้าน พิสูจน์ร่องรอยจากหลักฐาน เป็นพิเศษ บางครั้งก็มาพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อ สร้าง หรือรวบรวมหลักฐานขึ้นมาใหม่ เขาไม่ชอบหิมะและอากาศเย็น เนื่องจากเขาพูดอยู่เสมอว่าเขามาจาก ฟินิกซ์ และเห็นว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 85 องศาฟาเรนไฮต์ นั้นเย็นมากสำหรับเขา เขาเคยยอมรับว่า ระหว่างที่เขาเผากระดูกบางอย่างอยู่นั้น ก็ถูกพ่อของเขาข่มขู่และต่อว่า หลังจากนั้นเขาจำได้ว่า จะรู้สึกสะดุ้งและหวาดระแวงเป็นอย่างมากเวลามีใครบางคนตะหวาดและมาตีที่ไหล่ เขา ซึ่งทำให้เห็นว่า เขาถูกข่มขู่และทารุณกรรม ตั้งแต่เด็ก เขาได้ให้ความช่วยเหลือ สเตลล่า โดยใช้ชุดทดสอบ PCR เพื่อหาเชื้อ HIV เนื่องจากว่า เธอได้ถูกเศษกระจกบาด จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุแห่งหนึ่ง และสงสัยว่าเศษกระจกที่เปื้อนเลือดเหล่านั้นมีเชื้อ HIV ติดอยู่ และภายหลังพบว่าผลเลือดของเธอเป็น ลบ ในซีซั่นที่ 3 ตอน Snow Day เขากับเพื่อนร่วมทีม แดนนี่ ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในคลังสินค้า และถูกบุหรี่เผาที่มือของเขาด้วย ซีซั่นที่ 5 ตอน Enough เขาได้รับจดหมายเตือนเกี่ยวกับเวลาการทำงานของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว อดัม ได้ไปพูดคุยกับ แม็ค ซึ่งเขาก็ไม่ทราบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แม็ค ได้โต้เถียงกับ หัวหน้านักสืบ ซินแคลร์ เกี่ยวกับการตัดงบประมาณการจ้างเจ้าหน้าที่ เพื่อซื้อเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ เครื่องใหม่ รวมทั้งสเตลล่าในภายหลังด้วย เพราะ เขาต้องการให้เธอยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ เครื่องใหม่ โดยเธอคิดว่าเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ ใหม่ สามารถตามตัวฆาตกรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ ใช้เจ้าหน้าที่น้อยลง แต่เมื่อสิ้นสุดการโต้เถียง แม็ค เลือกที่จะให้ อดัม อยู่ที่แล็บต่อไป ซึ่งภายหลัง ระหว่างการโต้เถียงของแม็ค และ สเตลล่า เขาก็ได้ยินเรื่องราวนี้ทั้งหมดอยู่ที่หน้าห้อง



เจ้าหน้าที่ พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 3 ด็อกเตอร์ เชลดอน ฮอว์คส์ - CSI Detective Third Grade: Doctor Sheldon Hawkes (แสดงโดย Hill Harper)

            ก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าทีมด้านทีมนิติเวชของทีม CSI ซีรีส์นี้ เขาชื่นชอบความท้าทายในการชันสูตรศพในห้องเงียบๆ เป็นชีวิตจิตใจ ด้วยพรสวรรค์ระดับยอดอัจฉริยะในการเรียน เขาสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 18 ปี ตอนอายุ 24 ปี เขาเป็นถึงหนึ่งในสมาชิกทีมศัลยกรรมชั้นนำของ สหรัฐอเมริกา ในซีซั่นที่ 2 เขาออกจากห้องชันสูตรศพและเริ่มออกงานภาคสนามกับเพื่อนร่วมทีม ในซีซั่นที่ 3 ตอน Rising Shane เขาถูกจับกุมในฐานะเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีปล้นและฆาตกรรมรายหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็รอดพ้นจากข้อกล่าวหา เพราะ เพื่อนร่วมทีมช่วยกันหาหลักฐานมัดตัว เชนส์ คาเซย์ ฆาตกรต่อเนื่องได้ (ฮอว์คส์ถูก เชน คาเซย์ ใส่ร้าย เนื่องจากก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่นิติวิทยา ชันสูตรศพ แลน คาเซย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ เชนส์ คาเซย์ ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เขาไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าตัวตายและแค้นใจมาก จึงได้ฆาตกรรมผู้เกี่ยวที่ข้องกับนี้คดี 3 คนที่เป็นพยาน และฮอว์คส์จึงตกเป็นเป้าหมายคนต่อไป ในฐานะคนที่เคยชันสูตรศพพี่ชายของเขา)



เจ้า หน้าที่แผนกสืบสวน นักสืบระดับ 1 โดนัล “ดอน” แฟล็ค จูเนียร์ - Homicide Detective First Grade: Donald “Don” Flank Junior (แสดงโดย Eddie Cahill)

            นักสืบหนุ่มแนวฮาร์ดคอร์ ผู้ช่ำชองและรู้จักถนนทุกสายในนิวยอร์กเป็นอย่างดี ชนิดหลับตาเดินยังได้ เขาเป็นชายหนุ่มประเภทที่ไม่เคยสงสัยและตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง ทำหน้าที่เป็น นักสืบในแผนกสืบสวน เขารังเกียจคนเลวเข้ากระดูกดำ ด้วยไหวพริบที่ยอดเยี่ยมและมุมมองด้านนิติเวชอย่างลึกซึ้ง ดอน แฟล็ค ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ แม็ค เทย์เลอร์ และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ในทีม CSI ได้เป็นอย่างดี เขาสนิทสนมกับ แดนนี่ และรับฟังปัญหาของ แดนนี่ อยู่เสมอด้วยความเต็มใจ เวลาที่เขามีปัญหา ในซีซั่นที่ 2 ตอน Charge of this Post เขาได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด อาการขั้นโคม่า แต่ซีซั่นที่ 3 อาการดีขึ้นและมาร่วมทีมกับเพื่อนทำงานตามเดิม ซีซั่นที่ 3 ตอน ...Come Around เขาให้ความช่วยเหลือ แม็ค ในการตอบคำถาม เกี่ยวกับการเสียชีวิตของฆาตกรต่อเนื่อง เคลย์ ด็อบสัน แก่ศาล ซีซั่นที่ 5 ตอน Veritas น้องสาวของเขาต้องเป็น ผู้ต้องสงสัย ในคดีปล้นธนาคาร ซึ่งภายหลังก็รอดพ้นข้อกล่าวหา ตอน Dead Inside ความจริงถูกเปิดเผยว่า น้องสาวของเขาเป็นคนติดสุราอย่างหนักและ ในตอนท้ายเขามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสนิทสนมกับนักสืบ เจสสิก้า แองเจิล ตอน Rush to Jugdement เขาตกที่นั่งลำบากอย่างหนัก เมื่อ ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตในห้องสอบสวน ระหว่างการสอบปากคำ ทำให้เขาถูกยึดตรานักสืบ และ ลดตำแหน่ง ให้ไปนั่งที่โต๊ะประจำตำแหน่งชั่วคราว จนกว่าจะมีการสืบสวนเสร็จ ซึ่งภายหลังก็รอดพ้นข้อกล่าวหา อันเนื่องมาจาก เพื่อนร่วมทีมได้หาหลักฐานมาสนับสนุน



ตัวละครหลักที่ผ่านมา

เจ้า หน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 สเตลล่า โบนาเซร่า - CSI Detective First Grade: Stella Bonasera (แสดงโดย Melina Kanakaredes)

            เธอเป็นลูกครึ่งกรีก - อิตาเลี่ยน ที่อาศัยอยู่ใน นิวยอร์ก ตั้งแต่เกิด เธอเป็นประเภทหญิงเหล็กสู้ไม่ถอยเพื่อความยุติธรรม และอุทิศการทำงานของเธอด้วยความมุ่งมั่นและความชาญฉลาด ความปรารถนาที่ไม่เคยเติมเต็มของเธอ ก็คือ การมอบความเป็นธรรมให้กับเหยื่อการฆาตกรรมที่โหดร้ายทารุณ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่มีความเป็นอยู่อย่างลำบากตั้งแต่วัยเยาว์ ในสายตาเพื่อนร่วมงานของเธอ เธอเปรียบเสมือนเทพีแห่งเสรีภาพผู้สง่างามและหลักแหลม เธอสนิทสนมกับ แม็ค ตั้งแต่เป็นหัวหน้าทีมร่วมกัน ซึ่งเธอมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะร่างกายและจิตใจ ของเขาอยู่ตลอดเวลา ในซีซั่นที่ 2 ตอน All Access เธอฆ่าแฟน ที่มีอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา ที่ชื่อว่า แฟรงค์กี้ มาคา ด้วยความที่ไม่ตั้งใจ เพื่อป้องกันตัวเองจากการโดนทำร้ายของแฟนเธอ อันเนื่องมาจาก เธอมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ แม็ค มากเกินไป ทำให้เขาเกิดความหวาดระแวงในตัวเธอ ในซีซั่นที่ 3 เธอถูกเข้าใจผิดคิดว่า เป็น แคลร์ คอนราร์ด จาก รีด การ์เร็ท เด็กหนุ่มผู้ซึ่งได้รับของขวัญวันเกิดจากแคลร์และรับเป็นบุตรธรรม ก่อนที่เธอได้พบกับ แม็ค ขณะเดียวกัน เธอสงสัยว่าจะติดเชื้อ HIV จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุแห่งหนึ่ง และภายหลังพบว่าผลเลือดของเธอเป็น ลบ โดยเธอได้ทดสอบผลเลือด ที่แล็บอาชญากรรม นิวยอร์ก จากความช่วยเหลือของ อดัม รอส เพื่อนร่วมทีม ที่ทำหน้าที่ในห้องแล็บนี้ ซีซั่นที่ 4 ตอน Deep เธอได้พบกับชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า ดิว เบ็ดฟอร์ด ในระหว่างการสืบสวน ซึ่งเขารู้สึกสนใจในตัวเธออย่างลึกซึ้งและส่งของขวัญไปให้เธอตลอดเวลา ซึ่งภายหลังพบว่า ดิว เบนฟอร์ด เป็นบุคคลลึกลับเลข 333 ในซี่ซั่น 5 สเตลล่าได้คบหากับ นักดับเพลิงหนุ่มคนหนึ่งแต่เพียงแค่ไม่กี่ตอน หลังจากนั้นเธอก็มีความใกล้ชิดกับแม็คมากขึ้น จนกระทั่งซีซั่น 6 เธอกับแม็คดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเขาก็ยังคงสถานะเพื่อนเหมือนเดิม



เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 3 ไอเด้น เบิร์น - CSI Detective Third Grade: Aiden Burn (แสดงโดย Vanessa Ferlito)

            เธอเกิดในเมือง บรูคลิน หญิงสาวที่ครบสูตรทั้งจำนวนรอยหยักในสมอง และอัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ความเซ็กซี่ที่ดึงดูดใจ มีความสามารถและทักษะสูงในการเอาตัวรอดกับชีวิตข้างถนน และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถอันหลากหลายผนวกกับพรสวรรค์ด้านศิลปะ เธออุทิศตัวเองให้กับการสืบสวนในทีม CSI เธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะหากเป็นคดีที่เกี่ยวกับการพิสูจน์ซากโครงกระดูก เธอคือตัวเลือกอันดับหนึ่ง ในซีซั่นที่ 2 ตอน Grand Murder at Central Station หลังจากที่เพื่อนของเธอเป็นผู้เคราะห์ร้ายในคดี ข่มขืน จึงได้สร้างหลักฐานขึ้นมาเชื่อมโยงไปยังผู้ต้องสงสัย ดี.เจ. แพร็ท ซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรข่มขืนผู้เคราะห์ร้ายก่อนหน้านี้ เธอไม่เพียงแต่สร้างหลักฐานขึ้นมาเท่านั้น แต่ได้แกะผนึกซองหลักฐาน ซึ่งประกอบไปด้วย เส้นผมจำนวนหนึ่งของ ดี.เจ. แพร็ท ออกมาด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ แม็ค ไม่มีทาง เลือกที่จะไล่เธอออก เพื่อปกป้องความซื่อสัตย์ต่อห้องแล็บ CSI ของเขาเอง เธอเองได้ยอมรับการตัดสินใจของเขา และแม็คได้ให้สัญญากับเธอว่าเขาจะหาหลักฐานจับตัว ดี.เจ. แพร็ท ให้ได้ หลังจากนั้นเธอจึงออกจากห้องแล็บไป และทำงานเป็นนักสืบเอกชน ซึ่งในขณะเดียวกันก็พยายามหาหลักฐานส่วนสุดท้ายที่จะมัดตัวเขา ในคดีข่มขืนให้ได้ และในตอน Heroes เธอถูกดักซุ่มและล่อลวงออกมา และถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมจาก ดี.เจ. แพร็ท หลังจากนั้นก็ถูกเผาอยู่ในรถที่ถูกขโมยมาก่อนหน้านี้ หลังจากที่เธอสืบดูพฤติกรรมของเขาเป็นเวลานับเดือน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ได้ทิ้งหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ ร่องรอยกัดบนเบาะรถยนต์ ในขณะเดียวกันเธอได้กัดบนท่อนแขนของเขาด้วย โดยเธอรู้ว่ามันสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวเขาได้จากสิ่งนี้ การถูกฆาตกรรมของเธอ นำความสะเทือนใจมาแก่เพื่อนร่วมทีมทั้งหมด




Download 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น